วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง)

        วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) อยู่นอกกำแพงเมือง ริมคลองมหานาค ตรงที่บรรจบกับคลองบางลำพู เดิมเป็นวัดเก่าชื่อว่า “วัดสะแก” ได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่ทั้งพระอารามในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระราชทานนามว่า”วัดสระเกศ” ส่วนเจดีย์ภูเขาทองนั้นเริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยทรงเลียนแบบมาจากภูเขาทองในสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับพระราชทานนามว่า”บรมบรรพต” ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่บูชาไว้ในพระบรมมหาราชวังและพระบรมสารีริกธาตุที่ทางรัฐบาลอังกฤษเมื่อครั้งยังปกครองประเทศอินเดียถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาประดิษฐานในพระเจดีย์ภูเขาทองกำหนดให้มีงานนักขัตฤกษ์ฉลองพระเจดีย์ภูเขาทองและพระอารามหลวงวัดสระเกศ ระหว่างขึ้น 8-15 ค่ำ เดือน 12 เป็นประจำทุกปี  บรมบรรพตหรือพระเจดีย์ภูเขาทองปัจจุบันมีขนาดสูงจากฐานถึงยอด 63.6 เมตร

จุดเริ่มต้นการเดินขึ้นภูเขาทอง 

     ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในวัดก็สามารถมองเห็นภูเขาทองได้ตลอดเส้นทาง ก่อนเดินขึ้นไปบนภูเขาทองก็แวะเข้าไปกราบพระภายในพระอุโบสถก่อน

      ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานปางสมาธิองค์ใหญ่ ผนังรอบพระอุโบสถทั้งสี่ด้านนั้นประดับภาพจิตรกรรมอันงดงาม เบื้องบนเขียนภาพเทวดาและท้าวจตุโลกบาล ด้านตรงข้ามกับพระประธานเป็นภาพพุทธประวัติตอนมารวิชัย ระหว่างซุ้มหน้าต่างวาดเป็นภาพทศชาติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนด้านหลังพระประธานเป็นภาพไตรภูมิ เมื่อกราบท่านแล้วแหงนมองพระพักตร์ท่านและดูรอบๆพระอุโบสถจะได้ความรู้สึกอิ่มตาสบายใจ

       เดินออกมาจากพระอุโบสถ แล้วออกไปทางประตูด้านหลังพระประธานก็จะเจอกับพระวิหารพระอัฏฐารส ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อดุสิตและพระอัฎฐารส

        จากวิหารพระอัฏฐารสพอเดินออกมาก็จะเจอกับศาลาพระธรรมภีร์ 2,000 ปี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระคัมภีร์โบราณนอกจากนี้แล้ว ที่ศาลาแห่งนี้ยังมีการสาธยายพระไตรปิฏกทุกวันด้วย

 ถัดมาเป็นศาลาที่อยู่บริเวณทางขึ้นภูเขาทอง สามารถทำบุญถวายสังฆทานได้ทางวัดก็มีจัดเตรียมชุดสังฆทานไว้ให้

      บันไดขึ้นภูเขาทองนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 344 พระบรมบรรพตจำลอง ตั้งอยู่บริเวณช่วงกลางของบันไดขึ้นภูเขาทองช่วงแรก มีน้ำตกเล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวแวะถ่ายรูปให้หายเหนื่อยจากการขึ้นบันได

ระหว่างทางเดินขึ้นนั้นก็จะเห็นระฆังสามารถตีระฆังได้ และก็จะเห็นวิวระหว่างทางเดินขึ้นอีกด้วย

     ขึ้นมาถึงแล้วก็มาไหว้พระกันก่อน พระพุทธรูปประธานประดิษฐานตรงทางเข้าองค์พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระนามว่า “พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลี ศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ (ปางทรงเครื่องจักรพรรดิ์)”

ไหว้พระแล้วก็นำแผ่นท่องมาปิดที่มณฑปด้านในนี้ นอกจากนี้แล้วยังมีการไหว้จุดสะดือเมืองด้วย

ไหว้พระ ปิดทองด้านล่าง แล้วก็ขึ้นไปข้างบนต่อเลย

        องค์พระบรมสารีริกธาตุที่รัฐบาลอังกฤษได้น้อมเกล้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อร้อยกว่าปีก่อนนั้นประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ภูเขาทองนี้ นอกจากนี้ ภายในมณฑปแห่งนี้ก็มีประดิษฐานไว้ให้กราบไหว้เช่นกัน

        ไหว้พระ เวียนเทียนรอบภูเขาทองแล้วก็เดินถ่ายรูป ชมวิวไปเรื่อยๆ ซึ่งข้างบนนี้ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ขึ้นมาชมวิวในกรุงเทพฯได้  

       ระหว่างทางเดินลงจากภูเขาทองตามบันไดที่ขึ้นมาในตอนแรก จะเห็นมีป้ายบอกทางนมัสการหลวงพ่อโต ซึ่งมีบันไดทางแยกลงอีกทางหนึ่ง  หลวงพ่อโต ถือว่า “เป็นหลวงพ่อที่ให้ความ คุ้มครอง ให้ความสุข ความเจริญ”

      หลังจากนั้นเดินลงจากพระวิหารหลวงพ่อโตไปวิหารหลวงพ่อดำ (หากเดินรอบภูเขาทองวิหารหลวงพ่อดำน่าจะอยู่ด้านตรงข้ามกับหลวงพ่อโตพอดี) ในรูปมีพระพุทธรูปอยู่ ๒ องค์ องค์หลวงพ่อดำอยู่ด้านหลังครับ ใครจะปิดทองให้ปิดที่องค์ด้านหน้าแทน

       นอกเหนือจากนี้แล้ววัดสระเกศยังมีศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์วัดสระเกศฯ ภายในศาลามีพระพุทธรูปหลวงพ่อดวงดีประดิษฐานอยู่ ใครได้บูชาเชื่อว่าจะประสบแต่ความโชคดี หนุนดวงชะตาให้ดี จะขจัดเคราะห์ และเกิดสิริมงคล ตลอดถึงนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตนเองและครอบครัว นานัปประการ

ข้อมูลการติดต่อ

ที่ตั้ง : พรรดิพงษ์ แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100

โทรศัพท์ : 02-621-2280

เว็บไซต์ : http://www.watsraket.com

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 8.00 น. – 17.00 น.

เทศกาล : งานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ 7 วัน 7 คืน ในช่วงวันลอยกระทง มีการจัดงานวัดที่ถือเป็นงานวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในกรุงเทพฯ และทางวัดจะเปิดให้ประชาชนขึ้นไปกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุในตอนกลางคืนเป็น ช่วงเวลาพิเศษ 

การเดินทาง

รถประจำทาง: สาย 8 , 15 , 37 , 47 , 49 ปอ.37 , 49

เรือโดยสาร : ท่าผ่านฟ้าลีลาศ (คลองแสนแสบ), ท่าภูเขาทอง (คลองผดุงกรุงเกษม)

รถส่วนตัว : จอดภายในบริเวณวัดได้ ทางเข้าวัดที่สะดวก คือไปตามถนนจักรพรรดิพงษ์ ซึ่งทอดผ่านด้านหน้าวัด มีซุ้มประตูใหญ่ติดถนน รถส่วนบุคคลและรถตู้สามารถผ่านเข้าออกได้สบาย 

แผนที่

อ้างอิงข้อมูลจาก : http://www.watsraket.com/

http://pantip.com/topic/31881087/page2

กลับสู่ด้านบน